การรักษาออทิสติก: การกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาและบำบัดพฤติกรรมแบบเข้มข้นในช่วงแรกเริ่ม โดยใช้หลักการการวิเคราะห์พฤติกรรม แบบประยุกต์ (ABA) ที่มีงานวิจัยรองรับ และหลักฐานเชิงประจักษ์มากที่สุด - พัฒนาทักษะ, พัฒนาภาษา

ลดพฤติกรรม ที่เป็นปัญหา และ ส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน


โปรแกรมห้องเรียนส่งเสริมทักษะภาษา และกระตุ้นพัฒนาการแบบ

เข้มข้น ที่ใช้หลักการและวิธีการสอนจากการวิเคราะห์พฤติกรรม

แบบประยุกต์


Applied Behavior Analysis

(ABA)


และ การส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก

ดำเนินการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพประสบการณ์มากกว่า 14 ปี

เด็กที่มีความต้องการพิเศษ

เด็กที่มีความต้องการพิเศษ

CAD ให้บริการ ห้องเรียนส่งเสริมทักษะภาษาและกระตุ้นพัฒนาการแบบเข้มข้นในช่วงวัยเริ่มต้น โดยใช้หลักการของการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (Applied Behavior Analysis) วิธีการนี้ใช้การเสริมแรงเชิงบวกเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีภาวะออทิสติก และ มุ่งพัฒนาการพูด การสื่อสาร ทักษะทางสังคม ส่งเสริมพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ส่งเสริมทักษะการช่วยเหลือตนเอง และ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน โปรแกรมทั้งหมดได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน เราเปิดสอนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

หลักสูตรของ CAD ใช้โปรแกรมการ
เรียนรู้จาก Pennsylvania Training
and Technical Assistance Network (PaTTAN) ซึ่งพัฒนาโดย Dr. Amiris Dipuglia และ Mr. Mike Miklos (BCBA) นักวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา หลักสูตรนี้เน้นการเสริมแรงเชิงบวกเพื่อปรับพฤติกรรมและส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ

ทีมนักบำบัด CAD ได้รับการฝึกอบรม กำกับดูแล และ โปรแกรมการสอน ถูกออกแบบ โดย นักวิเคราะห์พฤติกรรม ที่ได้รับการรับรอง (BCBA) (คุณดิต้า แชปแมน และ คุณประภานิช ประภานนท์) เพื่อให้แน่ใจว่าเรามอบการบำบัด ABA

ที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามหลักจริยธรรม

การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) คือ ศาสตร์ที่ใช้หลักการเรียนรู้มาประยุกต์เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ABA เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแนวทางการบำบัดที่มีหลักฐานเชิง

ประจักษ์รองรับมากที่สุดสำหรับการบำบัดบุคคลที่มีภาวะออทิสติก (ASD) และ ความบกพร่องทางพัฒนาการอื่นๆ ABA ยังสามารถช่วยเหลือกลุ่มเด็ก ที่มีปัญหาอื่น ๆ ได้แก่

  • พูดช้า (Speech delays)
  • พัฒนาการล่าช้ารอบด้าน (Global developmental delays)
  • สมาธิสั้น (ADHD)
  • ปัญหาด้านสังคม อารมณ์ และ พฤติกรรม
  • ความบกพร่องในการประมวลผลทางประสาทสัมผัส (Sensory processing disorder)

ประโยชน์ของการบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สามารถส่งเสริมทักษะ

เสริมพัฒนาการ บำบัดภาวะ

ออทิสติกอย่างมีประสิทธิภาพ

ได้อย่างไร?

     ภาวะออทิสติก หรือ ภาวะออทิสซึ่ม (ASD) ส่งผลต่อความท้าทายด้านทักษะทางสังคม ทักษะการสื่อสาร และ พฤติกรรม การบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) เป็นแนวทางการช่วยเหลือและบำบัดชั้นนำ

ที่นำเสนอวิธีการบำบัดแบบมีโครงสร้าง

ปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม จำนวนและระยะเวลาของการบำบัด มีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพของผลการบำบัด


     งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การบำบัดด้วยพฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่งผลดีต่อเด็ก ออทิสติกอย่างมาก และนำไปสู่พัฒนาการที่ดีขึ้น ในหลายด้าน มีผลงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับรูปแบบโปรแกรมสนับสนุนแนวคิดนี้ ได้แก่ Dawson และ Osterling (1997) ที่รายงานระยะเวลาการบำบัดที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ การเริ่มต้นการบำบัด ตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เด็กที่เริ่ม บำบัด ABA ก่อนอายุ 4-5 ขวบ มักจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าเด็กที่เริ่มสาย (Harris & Handleman, 2000; Sheinkopf & Siegel, 1998) โดยสรุป ประสิทธิภาพของการบำบัด ABA ขึ้นอยู่กับความถี่และความเข้มข้น ยิ่งบำบัดบ่อยและเข้มข้นเท่าไร โอกาสที่เด็กออทิสติกจะมีผลลัพธ์ที่ดี ก็ยิ่งมากขึ้น การเริ่มต้นการบำบัด ตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งส่งเสริม


ประโยชน์เหล่านี้ ประโยชน์ของการบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สามารถส่งเสริม สิ่งเหล่านี้

เสริมสร้างทักษะ


     เด็กออทิสติกมักประสบปัญหาในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ๆ เช่น ภาษา ทักษะทางสังคม และทักษะการช่วยเหลือ ตัวเอง การบำบัด ABA นำเสนอวิธี การสอนแบบมีโครงสร้างและเป็นระบบ ปรับตามความต้องการของแต่ละบุคคล ด้วยการบำบัด 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เด็กจะมีโอกาสฝึกฝนและเสริมสร้างทักษะ ที่เรียนรู้ใหม่ๆ มากขึ้น วิธีการแบบเข้มข้นนี้ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะ บ่มเพาะ ให้สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ และส่งเสริมทักษะการช่วยเหลือตัวเองในอนาคต

ปรับพฤติกรรม


      พฤติกรรมที่ท้าทายหรือพฤติกรรม

ที่ไม่เหมาะสมเป็นเรื่องปกติในเด็ก

ออทิสติก ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการเข้าสังคม การบำบัด ABA มุ่งเน้นที่การเข้าใจสาเหตุเบื้องหลังของพฤติกรรมเหล่านี้ และนำเทคนิคของ ABA มาใช้ปรับพฤติกรรมอย่างเหมาะสม ด้วยการบำบัด 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักบำบัดสามารถ:


• ระบุสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดพฤติกรรม

ที่ไม่พึงประสงค์

• สอนทักษะและพฤติกรรมทางเลือกที่

เหมาะสมแทน

• ใช้เทคนิคการเสริมแรงเพื่อกระตุ้น

ให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์

อย่างต่อเนื่อง


การบำบัดแบบเข้มข้นนี้สามารถลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหาได้อย่างมาก ส่งเสริมการควบคุมอารมณ์และการควบคุมตนเองให้ดีขึ้น

พัฒนาทักษะทางสังคม

และการสื่อสาร


       ความบกพร่องทางสังคมและการสื่อสารเป็นลักษณะเด่นของออทิสติก มักส่งผลต่อความสามารถของเด็ก ในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างมีคุณภาพ การบำบัด ABA มุ่งเน้นพัฒนาในด้านเหล่านี้ โดยสอน ทักษะทางสังคมที่จำเป็น เช่น:


• การผลัดกันพูด และ การผลัดกันเล่น (Turn-taking)

• การเริ่มต้นบทสนทนา

• การเข้าใจภาษาท่าทางและสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูด หรือ อวจนภาษา

(nonverbal communication)

• การแสดงออกทางอารมณ์อย่าง

เหมาะสม

• การสร้างและรักษาความสัมพันธ์

กับผู้อื่น


ด้วยการบำบัดแบบบ่อยครั้งและมีโครงสร้างที่เป็นระบบ เด็กออทิสติกมีโอกาสฝึกฝนทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์จำลองที่ควบคุมได้ จากนั้นค่อยๆ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การได้รับการกระตุ้นด้านทักษะทางสังคมและการสื่อสารอย่างต่อเนื่องตลอด 15-30 ชั่วโมงของการบำบัด ABA ต่อสัปดาห์ ส่งเสริมให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนวัยเดียวกันได้ดีขึ้น รู้จักการตอบสนองผู้อื่นอย่างเหมาะสม และพัฒนาทักษะการสื่อสารโดยรวม ให้ดีขึ้น

การมีส่วนร่วมของครอบครัว

และการนำทักษะไปใช้จริง


การมีส่วนร่วมของครอบครัวและผู้ดูแล

เป็นหัวใจสำคัญต่อความสำเร็จของการบำบัดพฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA)

การบำบัด ด้วยความถี่ 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ช่วยให้ผู้ปกครองและผู้ดูแลมีโอกาสเรียนรู้และนำเทคนิค ABA ไปใช้

ในสถานการณ์จริง นักบำบัดจะให้การสนับสนุน ประสานงาน ฝึกอบรม และ แนะนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าเทคนิคที่สอนในระหว่างการบำบัดได้รับการเสริมแรงทั้งที่บ้านและในชุมชน แนวทางการทำงานร่วมกันนี้ส่งเสริม

การนำทักษะไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ และ เสริมสร้างเครือข่ายสนับสนุน

ของเด็ก นำไปสู่ความก้าวหน้าที่สม่ำเสมอ และประสบความสำเร็จในระยะยาว

สรุป


       งานวิจัยและหลักฐานทาง คลินิกสนับสนุนประสิทธิภาพของการบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรม แบบประยุกต์(ABA) 15-30 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ สำหรับเด็กออทิสติก แนวทางการบำบัดแบบเข้มข้นนี้ช่วย ให้สามารถ


• เสริมสร้างทักษะที่ต้องการอย่าง

ตรงจุด

• ลดพฤติกรรมที่ท้าทาย หรือ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

• ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมและ

การสื่อสาร

• นำทักษะไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ


การได้รับการบำบัดที่มีโครงสร้าง

เป็นระบบและมีหลักฐานทางคลินิกสนับสนุนในความถี่และความเข้มข้น

ที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กออทิสติกประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ

ในด้านการทำงาน ทักษะการ

ช่วยเหลือตัวเอง และ คุณภาพชีวิต

* References

Dawson, G., & Osterling, J. (1997). Early intervention in autism. In M. J. Guralnick (Ed.), The effectiveness of early intervention (pp. 307–326). Baltimore: Brookes.


Harris, S. L., & Handleman, J. S. (2000). Age and IQ at intake as predictors of placement for young children with autism: A four- to six-year follow-up. Journal of Autism and Developmental Disorders, 30(2), 137–142


Sheinkopf, S. J., & Siegel, B. (1998). Home based behavioral treatment of young children with autism. Journal of Autism and Developmental Disorders, 28(1), 15–23.


Lovaas, O. I. (1987). Behavioral treatment and normal educational and intellectual functioning in young autistic children. Journal of Consulting and Clinical Psychology, 55(1), 3–9.


National Research Council. (2001). Educating Children with Autism. Committee on Educational Interventions for Children with Autism. Division of Behavioral and Social Sciences and Education. Washington, DC: National Academy Press.


Dawson, G., Rogers, S., Munson, J., Smith, M., Winter, J., Greenson, J., & Varley, J. (2010). Randomized, controlled trial of an intervention for toddlers with autism: The Early Start Denver Model. Pediatrics, 125(1), e17-e23.


Virués-Ortega, J., Rodríguez, V., & Yu, C. T. (2013). Meta-analysis of early intensive behavioral intervention for children with autism. Journal of Clinical Child & Adolescent Psychology, 42(4), 512-524.

พันธกิจ

พันธกิจของเรา คือ ส่งเสริมและ พัฒนาศักยภาพของเด็กออทิสติก และเด็กที่มีพัฒนาการที่แตกต่างจากวัย ด้วยการเรียน การสอนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยมีงานวิจัยและหลักฐาน เชิงประจักษ์รองรับ

เป้าหมาย

เป้าหมายของเรา คือ ส่งเสริมพลัง ให้บุคคลที่มีความหลากหลายทาง ระบบประสาท (neurodiversity) และครอบครัวของพวกเขาให้สามารถ

ดำเนินชีวิตอย่าง มีความสุข สมบูรณ์ และเป็นอิสระ มากที่สุด เท่าที่จะ

เป็นไปได้

บริการของเรา

- โปรแกรมห้องเรียนส่งเสริมทักษะ

ภาษาและกระตุ้นพัฒนาการแบบ

เข้มข้น

- ที่ใช้หลักการและวิธีการสอนจากการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์

Applied Behavior Analysis (ABA)


- โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program - IEP) ที่ได้รับการออกแบบโดยนักวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการรับรอง (Board Certified Behavior

Analyst - BCBA) ช่วยให้เด็กๆ พัฒนา

ในด้านต่างๆ ดังนี้ การพูด การสื่อสาร ทักษะทางสังคม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ที่ไม่เหมาะสม เสริมสร้างพฤติกรรมที่พึงประสงค์ และ จัดการอารมณ์ เสริมสร้างทักษะการช่วยเหลือตัวเอง เตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน และ พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในโรงเรียน เช่น การควบคุมตัวเอง การจดจ่อกับงาน

- ฝึกเทคนิคการบำบัดให้แก่ผู้ปกครอง (Parent training)

โปรแกรมห้องเรียนของเรารวม

การอบรมผู้ปกครอง 8 ชั่วโมง ในหัวข้อต่างๆ เช่น เทคนิคการส่งเสริมการสื่อสาร การจัดการพฤติกรรมที่ไม่

พึงประสงค์และ การส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านเราเปิดสอนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

โปรแกรม ABA ของเราสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการ

และความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก

Board Certified Behavior Analyst (BCBA)

ประภานิช ประภานนท์

(ครูอุ๋ม)

นักวิเคราะห์พฤติกรรม

ที่ได้รับการรับรอง


(Board Certified Behavior

Analyst - BCBA)

- ปริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สเตท

- ปริญญาโท สาขาสัทศาสตร์เชิงคลินิก

(ทุน Erasmus Mundus) จาก มหาวิทยาลัยพ็อทส์ดัม, มหาวิทยาลัยโกรนิงเงน, และมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์

- ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดิต้า แชปแมน

นักวิเคราะห์พฤติกรรม

ที่ได้รับการรับรอง


(Board Certified Behavior

Analyst - BCBA)

- ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก (Positive Behavior Support) มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์

- ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยลอนดอน

Teacher (Developmental Psychologist)

ครูกานต์จบการศึกษาระดับ ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยม อันดับ 2 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ครูกานต์ มีประสบการณ์ทำงานครูแนะแนว เด็กประถมปลายในโรงเรียนทางเลือก เคยดูแลเด็กวัยอนุบาล ในโครงการออแพร์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เด็กมัธยมต้น ในโครงการทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ รุ่นที่ 2 และ มีประสบการณ์ การทำงานบำบัดเด็กพิเศษ โดยใช้หลักปรับพฤติกรรมแบบประยุกต์ เป็นระยะเวลา 3 ปี


อะไรที่ทำให้ครูกานต์ทำงานกับเด็ก? ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ได้ทำงานกับเด็กทำให้พบว่า ความสุขของครูกานต์ คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในช่วงชีวิตหนึ่งของเด็ก ๆ ด้วยการมีส่วนช่วยให้เด็กมีทักษะที่จำเป็นต่อการรับผิดชอบ ชีวิตตัวเองในอนาคต

ครูดามิ เรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เอกจิตวิทยาพัฒนาการ ครูดามิมีประสบการณ์สอนภาษาอังกฤษ ให้กลุ่มนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้ครูดามิมีความสนใจการทำงานเกี่ยวกับเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มเด็กพิเศษ จึงเลือกมาทำงานในสายงานนักบำบัดโดยตรง


ปัจจุบันครูดามิมีประสบการณ์การทำงาน เป็นนักบำบัด ที่ใช้หลักการ ABA เป็นเวลา 1 ปี ครูดามิมีความมุ่งหวังที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเด็กพิเศษ ให้เข้าถึงคนในสังคมในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เป้าหมายสูงสุดในการทำงานในฐานะนักบำบัด คือสามารถใช้ประสบการณ์การทำงาน สร้างโอกาสให้ผู้ปกครองและเด็กพิเศษในทุกกลุ่มเข้าถึงการบำบัดรักษาในช่วงเวลาที่สมควรได้


การได้เห็นพัฒนาการของเด็กๆ ทำให้ครูมีความตั้งใจและมุ่งมั่น ที่จะพัฒนาทักษะ และความรู้ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อไป

จบปริญญาตรีจากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังศึกษาต่อปริญญาโท แขนงวิชาจิตวิทยาพัฒนาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครูมนมีประสบการณ์ทำงาน เป็นนักบำบัดที่ใช้หลักการ ABA เป็นระยะเวลา 3 ปี


ตลอดการทำงานสิ่งที่ทำให้ครูมนมีความสุขและรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งคือ การได้เห็นเด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นจากการสอน ของตัวเอง และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ ความสามารถในด้านการบำบัดของตัวเองอยู่เสมอ

ครูริวสนใจและเริ่มทำงานเป็นนักบำบัดโดยใช้หลักการ ABA ตั้งแต่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ ภาควิชาจิตวิทยาพัฒนาการ


โดยปัจจุบันครูริวมีประสบการณ์เป็นนักบำบัดโดย

ใช้หลักการ ABA มากกว่า 1 ปี ซึ่งตลอดการทำงาน

ที่ผ่านมาทำให้ครูริวเห็นว่าเด็ก ๆ นั้นสามารถมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้หากได้รับการบำบัด อย่างเหมาะสมในระยะเวลาที่เพียงพอ และเมื่อครูริวได้เห็นพัฒนาการที่ก้าวหน้าของเด็ก ๆ ผ่านการบำบัดโดยใช้หลักการ ABA ก็มักจะทำให้ครูริวรู้สึกประทับใจ ตื่นเต้น และยินดีกับพัฒนาการของเด็ก ๆ ทำให้ครูริวได้รับแรงบันดาลใจ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาความสามารถด้านการบำบัดของตัวเองอยู่เสมอ

ถามตอบ

อะไรคือสาเหตุของภาวะออทิสติก (ASD)?

แม้ว่าสาเหตุเฉพาะเจาะจงของ ASD ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่การวิจัยในปัจจุบันเชื่อมโยงภาวะนี้กับความแตกต่างทางชีววิทยาหรือประสาทวิทยาในสมอง เชื่อกันว่า ASD มีพื้นฐานทางพันธุกรรม แม้ว่าจะยังไม่มีการระบุยีนเดี่ยวที่เกี่ยวข้องโดยตรง นักวิจัยกำลังใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพสมองขั้นสูงเพื่อตรวจสอบปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาของ ASD การสแกน MRI (Magnetic Resonance Imaging) และ PET (Positron Emission Tomography) สามารถแสดงความผิดปกติในโครงสร้างของสมอง โดยมีความแตกต่างของเซลล์ที่สำคัญในบริเวณสมองน้อย (Cerebellum)

การให้บริการการบำบัดเด็กที่มีภาวะออทิสติกในประเทศไทยมีอะไรบ้าง?

A. กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy)

นักกิจกรรมบำบัด ทำงานเน้นการช่วยเหลือผู้รับบริการให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามต้องการและจำเป็น กิจกรรมบำบัดใช้กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และความสามารถในการเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญในชีวิต ซึ่งรวมถึงกิจกรรมที่มีความหมายใดๆ ที่ผู้รับบริการต้องการจะทำ เช่น การดูแลตัวเองและครอบครัว การทำงาน การอาสาสมัคร การไปโรงเรียน เป็นต้น


B. การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์

(Applied Behavior Analysis - ABA)

การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์เป็นศาสตร์ที่ใช้หลักการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงชีวิต โดยเน้นการประเมินอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมต่อพฤติกรรม การวางแผนการบำบัดจากการประเมิน และ การตัดสินใจวางแผนการบำบัดและปรับพฤติกรรมจากข้อมูล หลักการของ ABA ถูกนำไปใช้แก้ไขปัญหาพฤติกรรมของผู้รับบริการในหลายด้าน เช่น การศึกษาทั่วไปและการศึกษาพิเศษ การบริหารจัดการองค์กรและความปลอดภัย ผู้สูงอายุ และอื่นๆ อีกมากมาย ABA เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแนวทางการรักษาที่ใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อันดับต้นสำหรับออทิสติกและความบกพร่องทางพัฒนาการอื่นๆ


C. DIR/Floortime

Floortime เป็นการบำบัดแบบเน้นความสัมพันธ์สำหรับเด็กออทิสติก การบำบัดนี้เรียกว่า Floortime เพราะผู้ปกครองลงไปนอนเล่นกับลูกบนพื้นเพื่อเล่นและโต้ตอบกับลูกในระดับของพวกเขา เป้าหมายคือให้ผู้ใหญ่ช่วยเด็กขยาย “วงจรการสื่อสาร” นักบำบัดสอนเด็กในระดับพัฒนาการของเด็กและสร้างจุดแข็งของพวกเขา นักบำบัดและผู้ปกครองดึงดูดเด็กผ่านกิจกรรมที่เด็กแต่ละคนชื่นชอบ นักบำบัดและผู้ปกครองเข้าร่วมการเล่นที่เด็กนำ และ ให้เด็กนำกิจกรรม

เหตุใดเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะออทิสติกจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น?

       o อัตราการเกิดของภาวะออทิสติกสูงแค่ไหน?

จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การศึกษาล่าสุด (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค, 2014) รายงานว่า ภาวะออทิสติกเกิดขึ้นประมาณ 1 ใน 68 คน ภาวะออทิสติกเป็นหนึ่งในความบกพร่องทางพัฒนาการที่ร้ายแรงและพบบ่อยที่สุด และพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงเกือบ 5 เท่า


ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของการวินิจฉัย ภาวะออทิสติก :

          o การรับรู้ที่เพิ่มขึ้น

- เนื่องจากสังคมตระหนักถึงออทิสติกมากขึ้น ผู้ปกครองและครูอาจสังเกตเห็นสัญญาณของออทิสติกที่อาจมองข้ามไปก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การวินิจฉัยบุตรหลานและนักเรียนของตน


          o การคัดกรองที่เพิ่มมากขึ้น

- มีการคัดกรองเด็กเพื่อหาภาวะออทิสติกมากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบัน แนะนำให้คัดกรองพัฒนาการของเด็กทุกคนเมื่ออายุ 9, 18 และ 30 เดือน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าคำแนะนำนี้ได้รับการปฏิบัติตามมากเพียงใด แต่ก็น่าจะนำไปสู่การวินิจฉัยเด็กวัยเล็กได้มากขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่มีสัญญาณภาวะออทิสติกไม่ชัดเจน

บุคคลที่มีภาวะ ASD สามารถพัฒนาได้หรือไม่? ทำอย่างไร?

บุคคลที่มีภาวะ ASD สามารถพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นได้ โดยการได้รับการบำบัดอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) เป็นที่รู้จักกันดีในด้านความสำเร็จในการรักษาบุคคลที่มีภาวะออทิสติก และความบกพร่องทางพัฒนาการอื่นๆ (เช่น ดาวน์ซินโดรม ความบกพร่องทางสติปัญญา) การรักษาด้วยวิธีนี้มีประสิทธิภาพตลอดทุกช่วงชีวิตของบุคคล (วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่)

สำหรับเด็กวัยเล็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ เช่น เด็กที่มีภาวะออทิสติก เป้าหมายของการบำบัดอย่างเข้มข้นและครอบคลุม คือ การพัฒนาทักษะด้านความรู้ความเข้าใจ ทักษะภาษา ทักษะทางสังคม และ ทักษะการช่วยเหลือตัวเอง การวิจัยหลายทศวรรษแสดงให้เห็นว่า การบำบัดด้วยหลักการของ ABA อย่างเข้มข้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับเด็กออทิสติก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากองค์กรต่างๆ มากมาย รวมถึง แพทย์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา สมาคมกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน และสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ

เมื่อนำไปใช้กับผู้ใหญ่ ABA จะเกี่ยวข้องกับการสอนพฤติกรรมที่จำเป็นต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในบ้าน โรงเรียน และชุมชน ABA ยังสามารถลดพฤติกรรมปัญหาที่รุนแรงซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงจำกัดโอกาสทางการศึกษา ที่อยู่อาศัย หรืออาชีพ

ทำไมแนวทางการบำบัดที่มีงานวิจัยรองรับและหลักฐานเชิงประจักษ์ (EBP) จึงสำคัญสำหรับเด็กออทิสติก?

แนวทางการบำบัดที่มีงานวิจัยรองรับและหลักฐานเชิงประจักษ์ (EBP) คือการนำผลวิจัยและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการรักษา ส่งผลดีต่อเด็กออทิสติกดังนี้:


1. ยึดความต้องการของเด็กเป็นศูนย์กลาง:

EBP เน้นการให้การดูแลที่ดีที่สุด โดยมั่นใจว่าเด็กได้รับการบำบัดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด


2. เพิ่มความปลอดภัยในการบำบัด:

การใช้หลักฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก


3. การรักษาที่ชาญฉลาด บรรลุผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ:

EBP ช่วยปรับปรุงการให้บริการและการบำบัด ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และ อาจลดค่าใช้จ่าย


4. เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์กับความต้องการของแต่ละบุคคล:

EBP ผสมผสานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์กับสถานการณ์ของเด็กแต่ละราย เพื่อให้แผนการบำบัดที่เหมาะสมที่สุด


5. ประโยชน์ร่วมกันสำหรับทุกคน:

การดูแลที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อเด็ก ผู้ให้บริการ และ สถาบัน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและอาจลดค่าใช้จ่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ชื่อ นามสกุล* ข้อมูลที่จำเป็น!
อีเมลล์* ข้อมูลที่จำเป็น!
ข้อความ ข้อมูลที่จำเป็น!

สถานที่ตั้ง

294 ซอยพหลโยธิน35 แขวงลาดยาว
เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
เบอร์ติดต่อ 065-496-2826

การรักษาออทิสติก: การกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาและบำบัดพฤติกรรมแบบเข้มข้นในช่วงแรกเริ่ม โดยใช้หลักการการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA)

ที่มีงานวิจัยรองรับและหลักฐานเชิงประจักษ์มากที่สุด - พัฒนาทักษะ, พัฒนาภาษา, ลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหา และ ส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน

โปรแกรมห้องเรียนส่งเสริมทักษะภาษาและกระตุ้นพัฒนาการแบบเข้มข้น

ที่ใช้หลักการและวิธีการสอนจากการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์


Applied Behavior Analysis (ABA)


และ การส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก

ดำเนินการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพประสบการณ์มากกว่า 14 ปี

เด็กที่มีความต้องการพิเศษ

เด็กที่มีความต้องการพิเศษ

CAD ให้บริการ ห้องเรียนส่งเสริมทักษะภาษาและกระตุ้นพัฒนาการแบบเข้มข้นในช่วงวัยเริ่มต้น โดยใช้หลักการของการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (Applied Behavior Analysis) วิธีการนี้ใช้การเสริมแรงเชิงบวกเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีภาวะออทิสติก และ มุ่งพัฒนาการพูด การสื่อสาร ทักษะทางสังคม ส่งเสริมพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ส่งเสริมทักษะการช่วยเหลือตนเอง และ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน โปรแกรมทั้งหมดได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน เราเปิดสอนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย


หลักสูตรของ CAD ใช้โปรแกรมการเรียนรู้จาก Pennsylvania Training and Technical Assistance Network (PaTTAN) ซึ่งพัฒนาโดย Dr. Amiris Dipuglia และ Mr. Mike Miklos (BCBA) นักวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา หลักสูตรนี้เน้นการเสริมแรงเชิงบวกเพื่อปรับพฤติกรรมและส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ

ทีมนักบำบัด CAD ได้รับการฝึกอบรม กำกับดูแล และ โปรแกรมการสอนถูกออกแบบ โดย นักวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการรับรอง (BCBA) (คุณดิต้า แชปแมน และ คุณประภานิช ประภานนท์) เพื่อให้แน่ใจว่าเรามอบการบำบัด ABA ที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามหลักจริยธรรม

การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) คือ ศาสตร์ที่ใช้หลักการเรียนรู้มาประยุกต์เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ABA เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแนวทางการบำบัดที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์รองรับมากที่สุดสำหรับการบำบัดบุคคลที่มีภาวะ

ออทิสติก (ASD) และ ความบกพร่องทางพัฒนาการอื่นๆ ABA ยังสามารถช่วยเหลือกลุ่มเด็ก

ที่มีปัญหาอื่น ๆ ได้แก่

  • พูดช้า (Speech delays)
  • พัฒนาการล่าช้ารอบด้าน (Global developmental delays)
  • สมาธิสั้น (ADHD)
  • ปัญหาด้านสังคม อารมณ์ และ พฤติกรรม
  • ความบกพร่องในการประมวลผลทางประสาทสัมผัส (Sensory processing disorder)

ประโยชน์ของการบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สามารถส่งเสริมทักษะ เสริมพัฒนาการ บำบัดภาวะออทิสติกอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?

     ภาวะออทิสติก หรือ ภาวะออทิสซึ่ม (ASD) ส่งผลต่อความท้าทายด้านทักษะทางสังคม ทักษะการสื่อสาร และ พฤติกรรม การบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) เป็นแนวทางการช่วยเหลือและบำบัดชั้นนำ ที่นำเสนอวิธีการบำบัดแบบมีโครงสร้าง ปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม จำนวนและระยะเวลาของการบำบัด มีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพของผลการบำบัด


     งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การบำบัดด้วยพฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่งผลดีต่อเด็ก ออทิสติกอย่างมาก และนำไปสู่พัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน มีผลงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับรูปแบบโปรแกรมสนับสนุนแนวคิดนี้ ได้แก่ Dawson และ Osterling (1997) ที่รายงานระยะเวลาการบำบัดที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ การเริ่มต้นการบำบัดตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เด็กที่เริ่มบำบัด ABA ก่อนอายุ 4-5 ขวบ มักจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าเด็กที่เริ่มสาย (Harris & Handleman, 2000; Sheinkopf & Siegel, 1998) โดยสรุป ประสิทธิภาพของการบำบัด ABA ขึ้นอยู่กับความถี่และความเข้มข้น ยิ่งบำบัดบ่อยและเข้มข้นเท่าไร โอกาสที่เด็กออทิสติกจะมีผลลัพธ์ที่ดีก็ยิ่งมากขึ้น การเริ่มต้นการบำบัดตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งส่งเสริมประโยชน์เหล่านี้


ประโยชน์ของการบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สามารถส่งเสริมสิ่งเหล่านี้

เสริมสร้างทักษะ


     เด็กออทิสติกมักประสบปัญหาในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ๆ เช่น ภาษา ทักษะทางสังคม และทักษะการช่วยเหลือตัวเอง การบำบัด ABA นำเสนอวิธีการสอนแบบมีโครงสร้างและเป็นระบบ ปรับตามความต้องการของแต่ละบุคคล ด้วยการบำบัด 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เด็กจะมีโอกาสฝึกฝนและเสริมสร้างทักษะที่เรียนรู้ใหม่ๆ มากขึ้น วิธีการแบบเข้มข้นนี้ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะ บ่มเพาะให้สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ และส่งเสริมทักษะการช่วยเหลือตัวเองในอนาคต

ปรับพฤติกรรม


      พฤติกรรมที่ท้าทายหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นเรื่องปกติในเด็กออทิสติก ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการเข้าสังคม การบำบัด ABA มุ่งเน้นที่การเข้าใจสาเหตุเบื้องหลังของพฤติกรรมเหล่านี้ และนำเทคนิคของ ABA มาใช้ปรับพฤติกรรมอย่างเหมาะสม ด้วยการบำบัด 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักบำบัดสามารถ:


• ระบุสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์

• สอนทักษะและพฤติกรรมทางเลือกที่เหมาะสมแทน

• ใช้เทคนิคการเสริมแรงเพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์อย่างต่อเนื่อง


การบำบัดแบบเข้มข้นนี้สามารถลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหาได้อย่างมาก ส่งเสริมการควบคุมอารมณ์และการควบคุมตนเองให้ดีขึ้น

พัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อสาร


       ความบกพร่องทางสังคมและการสื่อสารเป็นลักษณะเด่นของออทิสติก มักส่งผลต่อความสามารถของเด็กในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างมีคุณภาพ การบำบัด ABA มุ่งเน้นพัฒนาในด้านเหล่านี้ โดยสอนทักษะทางสังคมที่จำเป็น เช่น:


• การผลัดกันพูด และ การผลัดกันเล่น (Turn-taking)

• การเริ่มต้นบทสนทนา

• การเข้าใจภาษาท่าทางและสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูด หรือ อวจนภาษา (nonverbal communication)

• การแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม

• การสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่น


ด้วยการบำบัดแบบบ่อยครั้งและมีโครงสร้างที่เป็นระบบ เด็กออทิสติกมีโอกาสฝึกฝนทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์จำลองที่ควบคุมได้ จากนั้นค่อยๆ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การได้รับการกระตุ้นด้านทักษะทางสังคมและการสื่อสารอย่างต่อเนื่องตลอด 15-30 ชั่วโมงของการบำบัด ABA ต่อสัปดาห์ ส่งเสริมให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนวัยเดียวกันได้ดีขึ้น รู้จักการตอบสนองผู้อื่นอย่างเหมาะสม และพัฒนาทักษะการสื่อสารโดยรวมให้ดีขึ้น

การมีส่วนร่วมของครอบครัวและการนำทักษะไปใช้จริง


การมีส่วนร่วมของครอบครัวและผู้ดูแลเป็นหัวใจสำคัญต่อความสำเร็จของการบำบัดพฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) การบำบัด ด้วยความถี่ 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ช่วยให้ผู้ปกครองและผู้ดูแลมีโอกาสเรียนรู้และนำเทคนิค ABA ไปใช้ในสถานการณ์จริง นักบำบัดจะให้การสนับสนุน ประสานงาน ฝึกอบรม และ แนะนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าเทคนิคที่สอนในระหว่างการบำบัดได้รับการเสริมแรงทั้งที่บ้านและในชุมชน แนวทางการทำงานร่วมกันนี้ส่งเสริมการนำทักษะไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ และ เสริมสร้างเครือข่ายสนับสนุนของเด็ก นำไปสู่ความก้าวหน้าที่สม่ำเสมอและประสบความสำเร็จในระยะยาว

สรุป


       งานวิจัยและหลักฐานทางคลินิกสนับสนุนประสิทธิภาพของการบำบัดด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์(ABA) 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สำหรับเด็กออทิสติก แนวทางการบำบัดแบบเข้มข้นนี้ช่วยให้สามารถ


• เสริมสร้างทักษะที่ต้องการอย่างตรงจุด

• ลดพฤติกรรมที่ท้าทาย หรือ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

• ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมและการสื่อสาร

• นำทักษะไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ


การได้รับการบำบัดที่มีโครงสร้างเป็นระบบและมีหลักฐานทางคลินิกสนับสนุนในความถี่และความเข้มข้นที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กออทิสติกประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในด้านการทำงาน ทักษะการช่วยเหลือตัวเอง และ คุณภาพชีวิต

* References

Dawson, G., & Osterling, J. (1997). Early intervention in autism. In M. J. Guralnick (Ed.), The effectiveness of early intervention (pp. 307–326). Baltimore: Brookes.


Harris, S. L., & Handleman, J. S. (2000). Age and IQ at intake as predictors of placement for young children with autism: A four- to six-year follow-up. Journal of Autism and Developmental Disorders, 30(2), 137–142


Sheinkopf, S. J., & Siegel, B. (1998). Home based behavioral treatment of young children with autism. Journal of Autism and Developmental Disorders, 28(1), 15–23.


Lovaas, O. I. (1987). Behavioral treatment and normal educational and intellectual functioning in young autistic children. Journal of Consulting and Clinical Psychology, 55(1), 3–9.


National Research Council. (2001). Educating Children with Autism. Committee on Educational Interventions for Children with Autism. Division of Behavioral and Social Sciences and Education. Washington, DC: National Academy Press.


Dawson, G., Rogers, S., Munson, J., Smith, M., Winter, J., Greenson, J., & Varley, J. (2010). Randomized, controlled trial of an intervention for toddlers with autism: The Early Start Denver Model. Pediatrics, 125(1), e17-e23.


Virués-Ortega, J., Rodríguez, V., & Yu, C. T. (2013). Meta-analysis of early intensive behavioral intervention for children with autism. Journal of Clinical Child & Adolescent Psychology, 42(4), 512-524.

พันธกิจ

พันธกิจของเรา คือ ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเด็กออทิสติก

และเด็กที่มีพัฒนาการที่แตกต่างจากวัย ด้วยการเรียนการสอนและ

เทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยมี

งานวิจัยและหลักฐานเชิงประจักษ์รองรับ


เป้าหมาย

เป้าหมายของเรา คือ ส่งเสริมพลังให้บุคคลที่มีความหลากหลาย

ทางระบบประสาท (neurodiversity) และครอบครัวของพวกเขา

ให้สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข สมบูรณ์

และเป็นอิสระมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

บริการของเรา

- โปรแกรมห้องเรียนส่งเสริมทักษะภาษาและกระตุ้นพัฒนาการ

แบบเข้มข้น

- ที่ใช้หลักการและวิธีการสอนจากการวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์

Applied Behavior Analysis (ABA)


- โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program - IEP) ที่ได้รับการออกแบบโดยนักวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการรับรอง (Board Certified Behavior

Analyst - BCBA) ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาในด้านต่างๆ ดังนี้ การพูด การสื่อสาร ทักษะทางสังคม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เสริมสร้างพฤติกรรมที่พึงประสงค์ และ จัดการอารมณ์ เสริมสร้างทักษะการช่วยเหลือตัวเอง เตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน และ พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในโรงเรียน เช่น การควบคุมตัวเอง การจดจ่อกับงาน

- ฝึกเทคนิคการบำบัดให้แก่ผู้ปกครอง (Parent training)

โปรแกรมห้องเรียนของเรารวมการอบรมผู้ปกครอง 8 ชั่วโมง ในหัวข้อต่างๆ เช่น เทคนิคการส่งเสริมการสื่อสาร การจัดการพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และ การส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน

เราเปิดสอนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

โปรแกรม ABA ของเราสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการ

และความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก

Board Certified Behavior Analyst (BCBA)

ประภานิช ประภานนท์ (ครูอุ๋ม)

นักวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการรับรอง

(Board Certified Behavior Analyst - BCBA)

- ปริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สเตท

- ปริญญาโท สาขาสัทศาสตร์เชิงคลินิก (ทุน Erasmus Mundus) จาก มหาวิทยาลัยพ็อทส์ดัม, มหาวิทยาลัยโกรนิงเงน, และมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์

- ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดิต้า แชปแมน

นักวิเคราะห์พฤติกรรมที่ได้รับการรับรอง

(Board Certified Behavior Analyst - BCBA)

- ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก (Positive Behavior Support) มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์

- ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยลอนดอน

Teacher (Developmental Psychologist)

Teacher (Developmental Psychologist)

ถามตอบ

อะไรคือสาเหตุของภาวะออทิสติก (ASD)?

แม้ว่าสาเหตุเฉพาะเจาะจงของ ASD ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่การวิจัยในปัจจุบันเชื่อมโยงภาวะนี้กับความแตกต่างทางชีววิทยาหรือประสาทวิทยาในสมอง เชื่อกันว่า ASD มีพื้นฐานทางพันธุกรรม แม้ว่าจะยังไม่มีการระบุยีนเดี่ยวที่เกี่ยวข้องโดยตรง นักวิจัยกำลังใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพสมองขั้นสูงเพื่อตรวจสอบปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาของ ASD การสแกน MRI (Magnetic Resonance Imaging) และ PET (Positron Emission Tomography) สามารถแสดงความผิดปกติในโครงสร้างของสมอง โดยมีความแตกต่างของเซลล์ที่สำคัญในบริเวณสมองน้อย (Cerebellum)

การให้บริการการบำบัดเด็กที่มีภาวะออทิสติกในประเทศไทยมีอะไรบ้าง?

A. กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy)

นักกิจกรรมบำบัด ทำงานเน้นการช่วยเหลือผู้รับบริการให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามต้องการและจำเป็น กิจกรรมบำบัดใช้กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และความสามารถในการเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญในชีวิต ซึ่งรวมถึงกิจกรรมที่มีความหมายใดๆ ที่ผู้รับบริการต้องการจะทำ เช่น การดูแลตัวเองและครอบครัว การทำงาน การอาสาสมัคร การไปโรงเรียน เป็นต้น


B. การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์

(Applied Behavior Analysis - ABA)

การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์เป็นศาสตร์ที่ใช้หลักการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงชีวิต โดยเน้นการประเมินอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมต่อพฤติกรรม การวางแผนการบำบัดจากการประเมิน และ การตัดสินใจวางแผนการบำบัดและปรับพฤติกรรมจากข้อมูล หลักการของ ABA ถูกนำไปใช้แก้ไขปัญหาพฤติกรรมของผู้รับบริการในหลายด้าน เช่น การศึกษาทั่วไปและการศึกษาพิเศษ การบริหารจัดการองค์กรและความปลอดภัย ผู้สูงอายุ และอื่นๆ อีกมากมาย ABA เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแนวทางการรักษาที่ใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อันดับต้นสำหรับออทิสติกและความบกพร่องทางพัฒนาการอื่นๆ


C. DIR/Floortime

Floortime เป็นการบำบัดแบบเน้นความสัมพันธ์สำหรับเด็กออทิสติก การบำบัดนี้เรียกว่า Floortime เพราะผู้ปกครองลงไปนอนเล่นกับลูกบนพื้นเพื่อเล่นและโต้ตอบกับลูกในระดับของพวกเขา เป้าหมายคือให้ผู้ใหญ่ช่วยเด็กขยาย “วงจรการสื่อสาร” นักบำบัดสอนเด็กในระดับพัฒนาการของเด็กและสร้างจุดแข็งของพวกเขา นักบำบัดและผู้ปกครองดึงดูดเด็กผ่านกิจกรรมที่เด็กแต่ละคนชื่นชอบ นักบำบัดและผู้ปกครองเข้าร่วมการเล่นที่เด็กนำ และ ให้เด็กนำกิจกรรม

เหตุใดเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะออทิสติกจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น?

       o อัตราการเกิดของภาวะออทิสติกสูงแค่ไหน?

จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การศึกษาล่าสุด (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค, 2014) รายงานว่า ภาวะออทิสติกเกิดขึ้นประมาณ 1 ใน 68 คน ภาวะออทิสติกเป็นหนึ่งในความบกพร่องทางพัฒนาการที่ร้ายแรงและพบบ่อยที่สุด และพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงเกือบ 5 เท่า


ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของการวินิจฉัย ภาวะออทิสติก :

          o การรับรู้ที่เพิ่มขึ้น

- เนื่องจากสังคมตระหนักถึงออทิสติกมากขึ้น ผู้ปกครองและครูอาจสังเกตเห็นสัญญาณของออทิสติกที่อาจมองข้ามไปก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การวินิจฉัยบุตรหลานและนักเรียนของตน


          o การคัดกรองที่เพิ่มมากขึ้น

- มีการคัดกรองเด็กเพื่อหาภาวะออทิสติกมากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบัน แนะนำให้คัดกรองพัฒนาการของเด็กทุกคนเมื่ออายุ 9, 18 และ 30 เดือน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าคำแนะนำนี้ได้รับการปฏิบัติตามมากเพียงใด แต่ก็น่าจะนำไปสู่การวินิจฉัยเด็กวัยเล็กได้มากขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่มีสัญญาณภาวะออทิสติกไม่ชัดเจน

บุคคลที่มีภาวะ ASD สามารถพัฒนาได้หรือไม่? ทำอย่างไร?

บุคคลที่มีภาวะ ASD สามารถพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นได้ โดยการได้รับการบำบัดอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบประยุกต์ (ABA) เป็นที่รู้จักกันดีในด้านความสำเร็จในการรักษาบุคคลที่มีภาวะออทิสติก และความบกพร่องทางพัฒนาการอื่นๆ (เช่น ดาวน์ซินโดรม ความบกพร่องทางสติปัญญา) การรักษาด้วยวิธีนี้มีประสิทธิภาพตลอดทุกช่วงชีวิตของบุคคล (วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่)

สำหรับเด็กวัยเล็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ เช่น เด็กที่มีภาวะออทิสติก เป้าหมายของการบำบัดอย่างเข้มข้นและครอบคลุม คือ การพัฒนาทักษะด้านความรู้ความเข้าใจ ทักษะภาษา ทักษะทางสังคม และ ทักษะการช่วยเหลือตัวเอง การวิจัยหลายทศวรรษแสดงให้เห็นว่า การบำบัดด้วยหลักการของ ABA อย่างเข้มข้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับเด็กออทิสติก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากองค์กรต่างๆ มากมาย รวมถึง แพทย์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา สมาคมกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน และสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ

เมื่อนำไปใช้กับผู้ใหญ่ ABA จะเกี่ยวข้องกับการสอนพฤติกรรมที่จำเป็นต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในบ้าน โรงเรียน และชุมชน ABA ยังสามารถลดพฤติกรรมปัญหาที่รุนแรงซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงจำกัดโอกาสทางการศึกษา ที่อยู่อาศัย หรืออาชีพ

ทำไมแนวทางการบำบัดที่มีงานวิจัยรองรับและหลักฐานเชิงประจักษ์ (EBP) จึงสำคัญสำหรับเด็กออทิสติก?

แนวทางการบำบัดที่มีงานวิจัยรองรับและหลักฐานเชิงประจักษ์ (EBP) คือการนำผลวิจัยและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการรักษา ส่งผลดีต่อเด็กออทิสติกดังนี้:


1. ยึดความต้องการของเด็กเป็นศูนย์กลาง:

EBP เน้นการให้การดูแลที่ดีที่สุด โดยมั่นใจว่าเด็กได้รับการบำบัดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด


2. เพิ่มความปลอดภัยในการบำบัด:

การใช้หลักฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก


3. การรักษาที่ชาญฉลาด บรรลุผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ:

EBP ช่วยปรับปรุงการให้บริการและการบำบัด ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และ อาจลดค่าใช้จ่าย


4. เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์กับความต้องการของแต่ละบุคคล:

EBP ผสมผสานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์กับสถานการณ์ของเด็กแต่ละราย เพื่อให้แผนการบำบัดที่เหมาะสมที่สุด


5. ประโยชน์ร่วมกันสำหรับทุกคน:

การดูแลที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อเด็ก ผู้ให้บริการ และ สถาบัน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและอาจลดค่าใช้จ่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

นัดหมายพูดคุย

ชื่อ นามสกุล* ข้อมูลที่จำเป็น!
อีเมลล์* ข้อมูลที่จำเป็น!
ข้อความ ข้อมูลที่จำเป็น!

สถานที่ตั้ง

294 ซอยพหลโยธิน35 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

065-496-2826

Copyright © 2020  All Right Reserved

ไม่มีสินค้าในตะกร้า ถัดไป
ตะกร้าสินค้า
ราคารวม:
ส่วนลด 
ส่วนลด 
ดูรายละเอียด
- +
สินค้าหมด